Tuesday, 27 April 2010

เมื่อไหร่จะจัดการกับมันเสียที่

เรียน เพื่อน FB

คำพูดหนาหูมากที่สุดตอนนี้คือ “รัฐบาลทำอะไรอยู่” “เมื่อไรจะจัดการกับม็อบเสียที” “ขอให้รัฐบาลเด็ดขาด” “เบื่อรัฐบาลไม่ทำอะไรเสียที” และมีเพื่อนๆ FB ถามถึงแนวความคิดของผมในเรื่องนี้มาตลอด

ก่อนอื่นผมขอบอกกับพวกเรานะครับว่าได้กำลังใจจากพวกเรามาโดยตลอด แต่ทุกครั้งที่ได้รับกำลังใจว่าให้ “อดทน” นั้น ผมจะตระหนักเสมอว่าการอดทนต่อการกระทำของฝั่งตรงข้ามไม่เคยเป็นปัญหา แต่ที่ยากลำบากที่สุดคือความอดทนที่ต้องมีต่อความไม่พอใจของพวกที่รักเราและสนับสนุนเรา

ขณะที่ผมเขียนนี้ มีชาวFBที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นไม่อยากให้รัฐบาลยุบสภาตามการข่มขู่ของกลุ่มเสื้อแดงแล้วประมาณ 440,000 คน ส่วนใหญ่ที่ยังไม่อยากให้ยุบสภาก็เพราะไม่คิดว่าการที่มีอันธพาลมากดดันด้วยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายเป็นวิธีที่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย รัฐบาลเองก็ไม่คิดจะยุบด้วยเหตุเดียวกัน

แม้ความสูญเสียทางชีวิตก็เกิดขึ้น โดยที่มีความชัดเจนว่าฝั่งรัฐบาล มีความพยายามมาโดยตลอดที่จะไม่ใช้ความรุนแรง จนกระทั่งแม้แต่ฝ่ายตนเองยังตำหนิว่า “หน่อมแน้ม” เกินไป

สังคมไทยมีระดับการพัฒนามาเรื่อย ๆ ก่อนหน้าวันที่ 10 เมษายน จะมีความเชื่อโดยทั่วไปว่า ถ้ามีการประท้วงและมีการประทะกันถึงขั้นชีวิต รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ แต่ในยุคนี้ ระบบการสื่อสารและการเข้าถึงและเข้าใจข้อมูลทำให้สังคมไทยแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไรและใครเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้ที่มีเจตนาฆ่าคนเพื่อให้สังคมกดดันรัฐบาลให้ยอมแพ้จึงต้องผิดหวัง และสังคมก็ได้ประนามความชั่วร้ายของกลยุทธ์นี้

ประเด็นที่ท้าทายก็คือ รัฐบาลที่ไม่ประสงค์จะใช้ความรุนแรงกับพลเมืองของตัวเอง มีทางเลือกอะไรบ้าง ในสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน

ก็จะมีคนบอกว่า มันเป็นผู้ก่อการร้าย อย่างนี้มีสิทธิ์ต้องจัดการเด็ดขาด ก็ต้องถามกลับด้วยความเคารพจริง ๆ ครับว่าที่มาชุมนุมอยู่เป็นหมื่น ๆ คนนั้น เราถือว่าเป็นผู้ก่อการร้ายทุกคนจริงหรือ และเราจำเป็นต้องกวาดล้างเข่นฆ่าทุกคนจริงหรือ พวกเราส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า ไม่ใช่อย่างนั้น ก็จัดการกับแกนนำเสียสิ

อันนี้ผมเห็นด้วยครับ รัฐบาลก็ได้พยายามแล้วแต่คว้าน้ำเหลว เสียท่า เสียหน้า และเสียโอกาส ผู้บัญชาการก็ยืดอกรับผิดชอบแล้ว มีการเปลี่ยนตัวไปเรียบร้อย แต่ข้อเท็จจริงก็คือ เราไม่สามารถพึ่งเจ้าหน้าที่ ๆ รับผิดชอบได้ ถามตำรวจเขาก็จะบอกเองครับว่า ส่วนใหญ่เขา “แดง” ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะจริง ๆ เราไม่ต้องการเห็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีสี ขอให้ปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมายก็เพียงพอแล้ว ตำรวจเขาก็จะบอกว่า เขาก็เคยทำอย่างนั้นสมัยเสื้อเหลือง แต่ก็โดนสังคมประณาม ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขเยียวยาต่อไป แต่ผมคิดว่าในจังหวะนี้ประเทศบอบช้ำมาเพียงพอ จากการไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของทุกๆฝ่าย เราไม่อยากฟังข้ออ้างหรือคำอธิบาย ใครมีหน้าที่ๆจะบังคับใช้กฎหมายแต่ไม่พร้อมทำ ด้วยเหตุผลเพราะเลือกข้างหรือเพราะไม่อยาก “เปลืองตัว” ก็ต้องให้คนอื่นมาทำแทน

นอกจากนั้น กลุ่มแกนนำเขาก็มีฝูงชนเป็นเกราะกำบัง ขณะนี้เขาจะมีการ์ดแดงอยู่เป็นวงรอบนอก และก็จะมีอีกวงหนึ่งเป็นวงรอบใน อาวุธน่าจะมีครบ และระหว่างสองวงก็จะมีชาวบ้านเป็นกันชน ใครบุกเข้าไปพยายามจับแกนนำ เราสรุปได้ว่าต้องมีการเสียชีวิตแน่นอน และน่าจะเป็นชีวิตชาวบ้านด้วย

สมมุติว่าเราเข้าไปสลายการชุมนุมได้ด้วยการใช้ความรุนแรง ก็อย่าคิดเลยนะครับว่า กระบวนการแดงมีจำกัดอยู่แค่ที่ราชประสงค์ อารมณ์ความรู้สึกของคนไทยที่ดู PTV มาทั้งวันทั้งคืนเป็นเดือน ๆ และมีใจรักทักษิณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาต้องไม่พอใจแน่นอน และจะมีความรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาโดนกลั่นแกล้ง จะแสดงออกด้วยการใช้ความรุนแรงหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่จะเป็นการฝังลึกในความเกลียดชังคนไทยด้วยกัน เป็นไปได้ว่ากระบวนการจะลงใต้ดิน สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินไปอีกนาน

จริง ๆ เขียนมายาวแต่คำถามมีสั้น ๆ เท่านั้นแหละครับว่า พวกเรายอมรับคนตายเป็นร้อยที่ราชประสงค์จริง ๆ หรือครับ และคิดว่านั่นคือคำตอบและทางออกที่ดีที่สุดของประเทศหรือไม่

อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงมีเพื่อน ๆ ถามต่อไปว่า แล้วไง หมายความว่าทำอะไรไม่ได้และจะไม่ทำอะไรงั้นหรือ
เท่าที่ผมเห็น ปัญหาสำคัญคือ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ตรงนี้รัฐบาลต้องแก้ไขโดยด่วน ใครไม่ทำตามต้องปลด ปัญหาที่สองคือ ประชาชนและผู้ประกอบกิจการเล็ก-ใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบ อย่างเช่นทุกๆคนที่ตกงาน ไม่มีรายได้ ในบริเวณพื้นที่ราชประสงค์ รัฐต้องดูแล และเราก็มีมาตรการที่ประกาศออกมาแล้ว ทั้งในรูปของเงินช่วยเหลือและวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ปัญหาที่สามคือ การต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เรื่องนี้แล้วแต่คนครับ แต่ส่วนตัวผมชัดเจน ผมได้เคยพูดกับคนฝั่งตรงข้ามว่าตัวคุณอาจจะบอกว่าคุณจงรักภักดี แต่คุณคบหาพึ่งพากับคนที่ต้องการล้มเจ้า ก็เท่ากับคุณเองก็พร้อมที่จะร่วมทำลายสถาบัน

มั่นใจได้ครับว่า จากนี้ไปความเข้มข้นในการทำงานของรัฐบาล จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน
แต่เราต้องเข้าใจกันว่าความอดทนต้องมี เราคิดอะไรต้องคิดให้ทะลุ ขอให้พวกเราเชื่ออย่างหนึ่งว่าผู้ที่ต้องอดทนที่สุดไม่ใช่ท่าน และไม่ใช่ผมครับ แต่นายกฯเป็นคนหนึ่งที่ต้องอดทน กินนอนอยู่ในค่ายทหารมาเดือนกว่า ลูกเมียเจอบ้างไม่เจอบ้าง ถูกกล่าวหาต่าง ๆ นา ๆ ด่าพ่อล่อแม่ แบบตอบโต้อย่างไรก็ไม่มีทางทัน ผมบอกได้เลยครับว่าง่ายที่สุดสำหรับนายกฯ ก็คือ ลาออก ยุบสภา หรือสั่งทหารลุย

แต่เมื่อเราหยุดคิดดี ๆ ไม่ว่าจะ ลา-ยุบ-ลุย ล้วนแล้วจะทำให้ชาติต้องบอบช้ำเพิ่มเติม
นายกฯ ก็เลยต้องอดทน ผมรู้จักท่านดีครับ ที่ต้องอยู่ในค่าย กินข้าวไข่เจียวทุกวันนะ ท่านไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ผมรู้ว่าที่ท่านหนักใจก็คือ ท่านรู้ว่าพวกเราอึดอัดและไม่พอใจต่อสถานการณ์

ผมขอบอกพวกเราครับว่า เรื่องนี้ต้องใจเย็นๆ อ่านแล้วอาจจะโกรธผม แต่ท่านลองทบทวนให้ดี Mandela ยอมติดคุก 27 ปี ขณะที่ประชาชนของเขาถูกรังแก เข่นฆ่า เอาเปรียบมาโดยตลอด แต่เขาก็อดทน Gandhi เองถูกข่มขู่ กดดัน รังแกอย่างไร ท่านก็อดทน เพราะท่านรู้ว่าชัยชนะที่ได้มาด้วยสติปัญญาบวกกับความเมตตา เป็นชัยชนะที่ยั่งยืน เพราะทุกคนมีส่วนร่วมในชัยชนะนั้นได้ ทุกคนมีที่ยืน

ผมไม่ได้มีเจตนายกย่องคุณอภิสิทธิ์ว่าเป็นวีรบุรุษหรือรัฐบุรุษหรอกครับ ผมเพียงแต่คิดว่าเราน่าจะเรียนรู้ว่าคนที่ได้รับการยกย่องนั้นเขาได้รับการยกย่องเพราะอะไร และท่านนึกตามดูสิครับ ว่าคนอาฟริกาใต้หรือคนอินเดียในยุคนั้นเขาต้องอดทนต่อสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าของเราเพียงใด

ลองเอาสุดกู่เลยนะครับ ถ้าเสื้อแดงชุมนุมปักหลักอยู่ราชประสงค์ไปอีกหนึ่งปี ก่อนจะเลิกราไป โดยไม่มีความเสียหายต่อชีวิตของพี่น้องคนไทยอีก พวกเรารับได้ไหมครับ ผมว่า Mandela และ Gandhi เขารับได้แต่เราต้องคิดเอาเอง ที่ผมรับไม่ได้คือ ผู้ก่อการร้ายที่ยังคงลอยนวลอยู่ ต้องตำหนิประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่ใช่เหตุผลเพียงพอที่จะทำให้เราจำนนต่อเป้าหมายของผู้ก่อการร้ายและอันธพาลหรอกครับ

ด้วยข้อเท็จจริงทั้งหมด ผมเชื่อว่ากระบวนการเสื้อแดงยึดครองประเทศไทยไม่ได้หรอกครับ ปัญหาก็คือความเคียดแค้นเกลียดชังทำให้คนกลุ่มนี้เพียงไม่กี่คน พร้อมจะทำลายวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน เพื่อสนองต่อตัณหาของเขากลุ่มเดียว เราจะชนะเขาได้ต้องรวมพลังต่อต้านโดยสันติวิธี ต้องอดทนเพราะการต่อสู้ด้วยวิธีนี้ไม่สะใจ ไม่ทันใจ แต่จะเป็นตัวพิสูจน์ที่แท้จริงว่า พวกเราชาวไทยพร้อมอดทนต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย โดยวิถีประชาธิปไตยจริงหรือไม่

(นาย กรณ์ จาติกวานิช รัฐมนตรีคลัง โพสต์โน๊ตลงบน Facebook 27 เมษายน 2553)

Friday, 23 April 2010

เมธี สารภาพ ....



นาย เมธี
ถูกตำรวจจับได้เมื่อวันที่ ศุกร์ ที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ตามหมายจับที่พบภาพวีดีโอในคลิป และเขามีอาวุธสงครามที่ยึดไปจากทหาร
หลังจากนั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ได้เข้่าไปพูดคุยกับนายเมธี
และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ
เมธี กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เขาอยู่ในเหตุการณ์และเป็นแนวหน้าปะทะกับทหารในบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขาได้ยินเพื่อนด้วยกัน บอกว่าให้ใช้อาวุธสงครามต่อสู้ (เขาบอกชื่อออกมาด้วย ตามที่ท่านอธิบดีให้สัมภาษณ์ แต่ยังไม่เปิดเผยกับสื่อ)
นายเมธี บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนคนมีอุดมการณ์และพร้อมจะตาย

นอกจากนั้น เมธี ยังบอกว่า กลุ่มแกนนำเสื้อแดงใช้สถานที่สาธารณะรอบที่ชุมนุม ในการวางแผนกันทุกวัน ขณะที่แกนน้ำเสื้อแดงหลังจากรู้ว่านายเมธีสารภาพแล้ว กลับพยายามบอกว่าเป็นเรื่องของนายเมธี คนเดียวไม่ได้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง

อนึ่ง น่าสังเกตุ ว่ามีการนำภาพนายเมธี ไปเทียบกับชายชุดดำ ที่ถูกถ่ายไว้ได้โดยนักข่าวของนิวยอร์คไทม์ เนื่องจากแววตาและคิ้วที่คล้ายกัน แต่ตัวเขายังไม่ได้บอกว่าเป็นเขาเองหรือไม่

link
http://www.komchadluek.net/detail/20100423/56684/ดีเอสไอชี้โทษ“เมธี”ถึงขั้นประหารชีวิต.html

(พบอาวุธสงครามของทหารและชุดโม่งดำ ในรถนายเมธี)
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000056098

Wednesday, 21 April 2010

ภาพส่งตรงจากบ้านนายตู่




 


าพส่งตรงจากบ้านยายนวม แม่นายตู่ จตุพร


-

เมื่อเรื่องราวของแม่
" นายตู่ " จตุพร พรหมพันธุ์
ถูกเปิดเผยจากหนังสือพิมพ์หัวสี

โดยในภาพที่หน้าหนังสือพิมพ์นั้น

เป็นภาพที่คนพันธมิตรคุ้นหน้าคุ้นตากันดี

เอ๊ะ...!

สาวงามที่นั่งประชิดติดยายนวม

แม่นายตู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น

เธอคือ คุณฟ้า สาวสุราษฎร์

-


-

ว่าแล้วพี่พิจิกา
หนึ่งในพันธมิตรที่พี่น้องพันธมิตรส่วนใหญ่จะรู้จักเป็นอย่างดี
ได้โทรสอบถามความจริงจากคุณฟ้า จึงได้ความว่า

-


-

คนสุราษฏร์ธานี เขาจัดตั้งกลุ่มกันเอง

ไม่ได้มีใครแนะนำ
ไม่ได้เป็นเพราะ " แกนนำ " จัดตั้งแต่อย่างไร
ใ ช้ ชื่ อ ก ลุ่ ม ว่ า

"
แนวร่วมกลุ่มผู้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
และองคมนตรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
"
-

รวมความคือ
พี่น้องพันธมิตรสุราษฎร์ธานี เกิดอาการทนไม่ไหว
"
ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรบ้านเมืองได้บ้าง ก็เลยรวมกลุ่มยกโขยงกันไป
อำเภอนาสาร
เข้าป่า-ข้ามห้วยทุรกันดาร ด้วยรถยนต์ ๓๐ กว่าคัน
และมอเตอร์ไซค์อีกหลายคัน
"
-


-

คุณฟ้าบอกว่า...!

"
น่ากลัวมากนะคะ เป็นป่าๆ แล้วพวกเราก็ไม่มีญาติอยู่แถวนั้น แต่ก็ไปกัน
เพราะอยากไปบอกแม่ไอ้ตู่
ให้เอาลูกลงมาจากเวทีแดง ที่จาบจ้วงสถาบัน "
ไปถึงก็มีชาวบ้านมาเฮฮา ต้อนรับ
ส่วนคนที่ไม่ลงมาจากบ้านก็ยกนิ้วโป้งให้
"
ยายนวม อยู่กับป้าอารีย์ พี่สาวคนละพ่อของไอ้ตู่
ยายนวมแกตาไม่ค่อยจะดีแล้ว แต่หูยังดี
เรื่องราวก็เป็นเหมือนที่ข่าวลง
คือ
ไอ้ตู่ไม่เคยกลับปเยี่ยมแม่เลย แม่โทรหาก็ไม่รับสาย
ไม่ดูดำดูดีใดๆ ทั้งสิ้น เค้าเล่าว่าเมื่อเร็วๆ นี้มันไปเผาศพญาติแถวบ้าน

มันก็ไม่แวะไปหาแม่ "

-


-

เมื่อพี่พิจิกาวางโทรศัพท์จากคุณฟ้า

เพื่อนของพี่พิจิกา
ที่เดินมากินข้าวร้านเดียวกัน
เห็นพี่พิจิกากับหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว

เพื่อนคนนี้เคยคบกันนายจตุพรได้ย้ำว่า...!

-

"
ไอ้ตู่มันน่าสงสารนะ บ้านมันจนมาก ตอนเด็กๆ ต้องไปอยู่วัด
ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ มันคงทำทุกอย่างโดยไม่คิด
เพื่อเงินอย่างเดียว "
-


-

จตุพรเอ๊ย...! (ใคร ๆ คงอยากจะเรียกว่า ไอ้ตู่เอ๊ย.....!)

เรื่องความจนนี่ ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจหรือน่าอายเลย

แต่เรื่องความเลวความชั่วต่างหากที่สมควรอายเป็นอย่างยิ่ง

-

สงสัยก็แต่ว่า อุตส่าห์ไปอยู่วัดตั้งแต่เด็ก

"
ธรรมมะ " ไม่ซึมเข้ากะโหลกหนาๆ บ้างหรือไง
หรือว่าเงินของ
" คนชั่วช้าสามานย์ "
มันมีพระคุณมากกว่า
" แม่ " หรือ! ?!?!
-


-

ในเวลาเย็นๆ ขณะที่ที่ฝนกระหน่ำเมืองกรุง

คุณฟ้าก็โทรกลับมารายงานให้พี่พิจิการู้ว่า

-

"
เย็นนี้ยายนวม เตรียมจุดธูปจุดเทียนแช่งลูกชายแล้ว
โทษฐานที่มันบังอาจจะล้มเจ้า
"
(
เฮ่อ...สงสารยายนวม ที่มีลูกแบบนี้ จนถึงขนาดต้องแช่งลูกตัวเอง
กลับตัวกลับใจเถอะตู่เอ๊ย...! อย่าให้คำแช่งของแม่เป็นผลเลย

นอกจากจะสร้างทุกข์ให้แม่แล้ว ยังจะเป็นบาปกรรมกันไปทั้งแม่ทั้งลูก)

-

ว ร ก ร ร ม แ ท้ ๆ ๆ ๆ
-

ใครแช่ง---ไม่ศักดิ์สิทธิ์ เท่า
" แม่ " แช่งนะเว้ยยย...!


ใช้วิจารณญาณดูเองเถิด


Tuesday, 20 April 2010

วินาศกรรม โดย " เสื้อแดง"

การชุมนุม สงบ สันติ อหิงสา เป็นเพียงโวหารของกลุ่มคนเสื้อแดง เท่านั้น
แท้จริงแล้ว เหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เมษายน เป็นการเปิดโฉมหน้าของเสื้อแดงออกมาให้เห็นมากขึ้น
แต่ก่อนหน้าและหลังจากเหตุการณ์มา มีการก่อวินาศกรรมทั่วกรุงเทพ และปริมณทล และหลายจังหวัดที่มีเสื้อแดงหนาแน่น
เช่น เชียงใหม่ พะเยา อุดรธานี อยุธยา
โดยใช้ระเบิด M79 คาร์บอม

เหตุการณ์สำคัญ ที่ควรจะไม่ถูกลืม ก็คือ
ในวันที่ 10 เมษายน เอง มีการพยายามวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง หลายต้น ในอยุธยา ที่ส่งกระแสไฟฟ้าเข้ากรุงเทพ
เพื่อต้องการให้ไฟฟ้าในเมืองหลวงดับ โชคยังดีที่เสาส่งเสียหาย แต่ยังสามารถจ่ายไฟฟ้าได้

ตีสองของคืน 21-22 เมษายน ก็มีคนร้ายยิงระเบิด M79 เข้าใส่คลังน้ำมันของ ปตท. ที่ลำลูกกา ซึ่งมีหน้าที่่ส่งน้ำมันให้กับ สนามบิน
การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง เป็น กบฏ ที่ต้องการทำลายชาติ อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเขาไม่สามารถล้มรัฐบาลโดยมวลชนได้ จึงพยายามใช้
กองโจร ที่ แกนนำ เสื้อแดง เสธ. แดง เรียกว่า นักรบ พระเจ้าตาก หรือ โรนิน ก็ตาม ในการก่อการร้าย

http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9530000054645

รัฐไทยใหม่


“ ตามที่มีบุคคลผู้ไม่ปรารถนาดีต่อบ้านเมืองไปขึ้นป้ายในบริเวณถนนสีลม ไปในทำนองว่า ผมคือประมุขของรัฐไทยใหม่ และเป็นประธานาธิบดีนั้น ผมขอประณามการกระทำนี้ ว่าเป็นการใช้ความเท็จจงใจใส่ร้ายป้ายสีทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุด การกระทำดังกล่าวนี้เป็นการกระทำของผู้ไม่ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง และต้องการสร้างความแตกแยกในแผ่นดินให้ขยายวงกว้างออกไปอีก บุคคลดังกล่าวนี้กำลังเพลิดเพลินกับการทุจริตเงินภาษีของประชาชน ซ้ำร้ายยังตอกลิ่มสร้างความแตกแยกในชาติอีก ผมขอเรียกร้องให้บุคคลเหล่านี้ยุติการกระทำเช่นนี้เสีย เพราะนอกจากจะไม่มีคนไทยเชื่อสิ่งที่พวกท่านกำลังทำ ท่านกำลังทำบาปและสร้างความแตกแยกในชาติ”
แถลงการณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร


หลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงนำสติกเกอร์เขียนว่า ประธานาธิบดี ทักษิณ ชินวัตร ประมุข รัฐไทยใหม่ ไปติดทั่วย่านสีลม และบริเวณที่ชุมนุม แต่กี่คนในประเทศไทยที่จงรักภักดี จะยังเชื่อเขาอยู่ ในเมื่อหลายครั้งที่แกนนำเสื้อแดง และแม้แต่ตัวทักษิณ เอง ไม่ได้มีความเคารพต่อสภาบันเหมือนอย่างที่คนไทยทั่วไปรู้สึก และแสดงออกกัน

คำสัมภาษณ์ของ ทักษิณ ในหนังสือพิมพ์ ไทม์ออนไลน์ , ทักษิณ พูดถึงอำมาตย์ อายุ 80 กว่าในขณะที่ พล เอก เปรม มีอายุเก้าสิบกว่าแล้ว
รองประธานรัฐสภา พูดอย่างเต็มปากว่าต้องการโค่นอำมาตย์ เหมือนโค่นโรมานอฟ
คนเสื้อแดง โดยเฉพาะ 3 เกลอ บอกจะสร้าง "รัฐไทยใหม่"
เสื้อแดง นำรูปแบบคอมมิวนิสต์ เนปาล และ เลนิน มาใช้

Monday, 19 April 2010

20 เมษายน 2553 ,อังคาร

การชุมนุมของกลุ่ม นปช. เป็นไปอย่างเงี๊ยบเหงาในตอนเช้า ผู้ขุมนุมไม่น่าจะถึงห้าพัน แต่ว่าก่อนหน้านี้มีการประกาศว่าวันนี้จะเป็นการเรียกชุมนุมครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ทหารถูกส่งไปประจำการพร้อมติดอาวุธ โดยได้รับอนุญาติจาก ศอฉ. ศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันตัว เพราะวันอาทิตย์ กลุ่มเสื้อแดงประกาศว่าจะเคลืื่อนตัวมาชุมนุมจุดที่สองหน้าธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่
เมื่อวาน พล.เอกชวลิต ยงใจยุทธ และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ออกมาแถลงว่าได้ยืนหนังสือขออนุญาติเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะขอพระเมตตาจากในหลวงให้มายุติปัญหา ก่อนที่จะเกิดความรุนแรง
รอยเตอร์เองเพิ่งจะวิจารณ์ พล.เอก ชวลิต ว่าแท้ที่จริงแล้วอยู่เบื้องหลังของกลุ่มทหารนอกราชการ หรือกลุ่่มคนสวมชุดทสีดำ ใส่ชุดการ์ด นปช. แล้วก่อความรุนแรง ทั้งยิงทหารและประชาชนเสื้อแดงเองเมื่อเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน ผ่านมา